เมนู
Title

Solid-State battery (แบตเตอรี่โซลิดสเตต) คืออะไร?  

แบตเตอรี่โซลิดสเตต เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้ของแข็งเป็นอิเล็กโทรไลต์ของแบตเตอรี่แทนที่การใช้อิเล็กโทรไลต์แบบของเหลวหรือแบบโพลิเมอร์เจล ที่สามารถพบได้ในแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนหรือแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์แบบปกติ ซึ่ง แบตเตอรี่โซลิดสเตต เป็นแนวทางเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงขึ้นเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น ความหนาแน่นของพลังงานที่สูงขึ้น และความคุ้มค่า แบตเตอรี่โซลิดสเตต คืออนาคตของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคและรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง 

ข่าวเพิ่มเติม Toyota กำลังพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตทสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า วิ่งไกลขึ้น ชาร์จไวขึ้น อาจมาปี 2027

 

แบตเตอรี่แบบ Solid-State นั้นทำงานอย่างไร ?

แบตเตอรี่แบบเดิมอย่างเช่นแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนจะใช้ขั้วบวกขั้วลบหรือแคโทดและแอโนดแยกจากกันด้วยสารอิเล็กโทรไลต์ที่เป็นของเหลวโดยแบตเตอรี่แบบ lithium ion ในปัจจุบันนี้ได้มีความนิยมในการใช้งานอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นใช้งานในมือถือสมาร์ทโฟนเครื่องมือช่างรถยนต์ไฟฟ้าและอื่นๆ อีกมากมาย แต่แบตเตอรี่แบบ Solid-State จะมีการเปลี่ยนจากการใช้งานสารอิเล็กโทรไลต์จากของเหลวเป็นของแข็ง โดยตัวอิเล็กโทรไลต์จะเป็นสารที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างขั้วบวกและขั้วลบที่ได้ทำการแยกขั้วลบและขั้วบวกออกจากกัน

การออกแบบแบตเตอรี่แบบ Solid-State เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้งานแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดการระเบิด ซึ่งอาจจะเกิดจากตัวเซลล์นั้นเกิดการรั่วหรือมีการลัดวงจรรวมถึงการ overcharging ให้กับแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ซึ่งเมื่อตัวแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนสามารถเกิดความเสียหายมีการรั่วมีการลัดวงจรหรือมีการชาร์จจนเกิดกระแสนั้น จะสามารถระเบิดจนทำให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้งานและตัวอุปกรณ์นั่นเอง

แต่สำหรับแบตเตอรี่แบบ Solid-State ตัวอิเล็กทรอนิกส์ไลฟ์ที่อยู่ภายในแบตเตอรี่จะมีความเสถียรมาก แม้ว่าจะมีการรั่วเกิดขึ้นของสารอิเล็กโทรไลต์ที่อยู่ภายในแบตเตอรี่นั้น แต่ยังสามารถจะคงรูปของตัวเองได้และไม่เกิดการติดไฟหรือระเบิดขึ้นมาอย่างแน่นอน

 

ข้อดีของการใช้งานแบตเตอรี่แบบ Solid-State

1. มีความจุพลังงานที่สูงมากยิ่งขึ้น โดยแบตเตอรี่ Solid-State มีความจุพลังงานมากกว่าแบตเตอรี่ธรรมดาสูงสุดถึง 2.5 เท่า

2. มีการลดและเลิกใช้สารเคมีอันตรายในแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันนี้แบตเตอรี่ที่ใช้งานส่วนใหญ่จะมีสารประเภทนี้จำนวนมากเนื่องจากว่าสารอิเล็กโทรไลต์นั้น ส่วนมากแล้วจะติดไฟ และทำให้ตัวแบตเตอรี่นั้นมีความปลอดภัยลดลง 

3. แบตเตอรี่แบบ Solid-State มีการรองรับการชาร์จกระแสไฟฟ้าที่รวดเร็วมากกว่า ให้กระแสไฟฟ้าที่สูงกว่ารวมถึงมีวงรอบในการชาร์จที่มากกว่าแบตเตอรี่ที่มีการใช้งานในปัจจุบัน

ในปัจจุบันนี้มีความต้องการในการใช้งานแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อที่จะใช้ในงานของรถยนต์ไฟฟ้ากันมากยิ่งขึ้น นอกจากการใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ยังคาดว่าในอนาคตน่าจะมีการนำเอาแบตเตอรี่แบบ Solid-State ไปใช้ในมือถือสมาร์ทโฟนอีกด้วย เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง และมีความจุในการเก็บพลังงานสูง รวมทั้งมีวงรอบในการชาร์จที่สูงด้วยนั่นเอง จึงทำให้เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ พวกโทรศัพท์มือถือ Smartphone, Tablet, Notebook laptop, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ด้วยเช่นกัน ในอนาคตอันใกล้นี้แบตเตอรี่แบบ Solid-State นั้นอาจจะเป็นมาตรฐานใหม่ของแบตเตอรี่ที่อยู่ในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ใช้งานแบตเตอรี่ก็เป็นไปได้ โดยในปัจจุบันนี้มีหลายบริษัทที่กำลังวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการนำเอาแบตเตอรี่แบบ Solid-State ต่างๆ มาใช้งาน

หากสนใจ Solid-State Battery หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อทีมวิศวกรของ UTEL ผู้มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสูง พร้อมมอบโซลูชันตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจกลุ่มลูกค้าองค์กร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในยุคดิจิทัลได้อย่างราบรื่น ที่ 02-016-5222  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

22/02/2024
ไลดาร์ (LiDAR) เทคโนโลยีโลกอนาคตในการวัดระยะทางและสร้างภาพ 3 มิติ
ไลดาร์ (LiDAR) คือ กระบวนการวัดระยะทางและสร้างภาพ 3 มิติโดยใช้การส่งและรับสัญญาณแสงเลเซอร์ (laser) LiDAR ย่อมามาจาก "Light Detection and Ranging" หรือ "Laser Imaging, Detection, and Ranging" เทคโนโลยีนี้มักถูกนำมาใช้ในหลายสาขาทางวิทยาศาสตร์และงานวิศวกรรม เพื่อให้ข้อมูลที่ละเอียดสูงเกี่ยวกับพื้นที่หรือวัตถุต่าง ๆ ในสภาพแวดล้อม 3 มิติ หรือแม้กระทั่งสามมิติ
13/02/2024
ส่อง 5 เทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า Smart City หรือเมืองอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน วันนี้ UTEL จะพาไปดูเทคโนโลยี 5 ด้าน
17/01/2024
WiFi 7 (IEEE 802.11be Extremely High Throughput) เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถของเครือข่ายไร้สาย
WiFi 7 เป็นมาตรฐาน WiFi ที่กำลังจะมา โดยมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า IEEE 802.11be Extremely High Throughput (EHT) ซึ่งทำงานอยู่บน 3 คลื่นความถี่ (2.4 GHz, 5 GHz, และ 6 GHz) เพื่อใช้งานทรัพยากรคลื่นความถี่อย่างเต็มความสามารถ
กลับไปด้านบน